จากยุคที่การศึกษาอยู่ในวัด เปลี่ยนแปลงมาเป็นการศึกษานอกกำแพงวัด ด้วยความเชื่อที่ว่าการศึกษาช่วยกำหนดทิศทางของชาติ เพื่อพัฒนาคนไทยให้มีความพร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า โดยจัดการศึกษารูปแบบใหม่ตามนโยบายของรัฐบาลชุดนั้นๆ เมื่อรัฐบาลเปลี่ยน การศึกษาก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย ทิศทางการศึกษาก็หันเหไปตามยุคตามสมัย ประมาณว่ารัฐบาลเป็นผู้กำหนดชะตาของการศึกษาไทยอย่างใดอย่างนั้น
ดังนั้น การศึกษาของไทยจึงยังไม่มีรูปแบบแน่นอนตายตัวชัดเจน ความไม่มีรูปแบบแน่นอนชัดเจนจึงทำให้ความเป็นอัตลักษณ์ของการศึกษาไทยก็ไม่ปรากฎในสายตาของคนประเทศอื่นๆ ไม่เหมือนประเทศที่มีรูปแบบการศึกษาแน่นอนชัดเจน อย่างเช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ หรือประเทศในแถบเอเชียด้วยกันอย่างสิงคโปร์ ซึ่งแม้จะเปลี่ยนรัฐบาลแต่เขาไม่เปลี่ยนรูปแบบ เพียงแต่พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาให้เข้าถึงกลุ่มประชาชนในประเทศเขาให้มากที่สุดเท่านั้น
วิวัฒนาการของการศึกษาไทยมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ (การศึกษาในวัด) เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นการศึกษายุคปฏิรูปซ้อนปฏิรูป กล่าวคือปฏิรูปแล้วปฏิรูปอีกในเรื่องของแผนพัฒนาการศึกษา หลักสูตร ครูผู้สอน หรือแม้แต่ตำราเรียน สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้ประเทศไทยมีตำราเรียนเกิดขึ้นแทบทุกวัน (ความรู้ที่ไม่ก่อให้เกิดปัญญา) เด็กแบกตำราไปเรียนแต่ละวันแทบจะไม่ไหว เสมือนกำลังจะบอกว่าเด็กไทยมีความรู้ความสามารถที่จะจดจำเนื้อหาตำราเหล่านั้นได้หมด แต่จะมีตำราเล่มไหนบ้างที่ทำให้เด็กเกิดพัฒนาการทางด้านความคิดและความรู้ได้จริง จะต้องให้เด็กเลือกเองไหม หรือผู้ใหญ่อย่างเราๆ เลือกสรรให้กันแน่ ประเด็นนี้ท่านก็คงจะพอตอบได้ ฉะนั้น ถ้าเป็นอย่างนี้การศึกษาของไทยยังคงไร้เป้าหมายจริงๆ ในสายตาท่านหรือไม่...
สติมา นารีนุช
นักวิชาการศึกษา
ดังนั้น การศึกษาของไทยจึงยังไม่มีรูปแบบแน่นอนตายตัวชัดเจน ความไม่มีรูปแบบแน่นอนชัดเจนจึงทำให้ความเป็นอัตลักษณ์ของการศึกษาไทยก็ไม่ปรากฎในสายตาของคนประเทศอื่นๆ ไม่เหมือนประเทศที่มีรูปแบบการศึกษาแน่นอนชัดเจน อย่างเช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ หรือประเทศในแถบเอเชียด้วยกันอย่างสิงคโปร์ ซึ่งแม้จะเปลี่ยนรัฐบาลแต่เขาไม่เปลี่ยนรูปแบบ เพียงแต่พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาให้เข้าถึงกลุ่มประชาชนในประเทศเขาให้มากที่สุดเท่านั้น
วิวัฒนาการของการศึกษาไทยมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ (การศึกษาในวัด) เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นการศึกษายุคปฏิรูปซ้อนปฏิรูป กล่าวคือปฏิรูปแล้วปฏิรูปอีกในเรื่องของแผนพัฒนาการศึกษา หลักสูตร ครูผู้สอน หรือแม้แต่ตำราเรียน สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้ประเทศไทยมีตำราเรียนเกิดขึ้นแทบทุกวัน (ความรู้ที่ไม่ก่อให้เกิดปัญญา) เด็กแบกตำราไปเรียนแต่ละวันแทบจะไม่ไหว เสมือนกำลังจะบอกว่าเด็กไทยมีความรู้ความสามารถที่จะจดจำเนื้อหาตำราเหล่านั้นได้หมด แต่จะมีตำราเล่มไหนบ้างที่ทำให้เด็กเกิดพัฒนาการทางด้านความคิดและความรู้ได้จริง จะต้องให้เด็กเลือกเองไหม หรือผู้ใหญ่อย่างเราๆ เลือกสรรให้กันแน่ ประเด็นนี้ท่านก็คงจะพอตอบได้ ฉะนั้น ถ้าเป็นอย่างนี้การศึกษาของไทยยังคงไร้เป้าหมายจริงๆ ในสายตาท่านหรือไม่...
สติมา นารีนุช
นักวิชาการศึกษา